Mercedes-AMG C 63 S Coupe เสริมทัพกลุ่มรถสมรรถนะสูง
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าบุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มรถยนต์ตระกูล Mercedes-AMG เปิดตัวสปอร์ตคูเป้ที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ล่าสุด Mercedes-AMG C 63 S Coupé ใหม่ ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ไปอีกระดับ โดยรถรุ่นนี้จะนำเสนอในราคา 10,129,000 บาท
Mercedes-AMG C 63 S Coupé ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ไปอีกระดับ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4 ลิตร แบบ Bi-turbo พร้อมเทคนิคการติดตั้ง V turbo ภายในที่ร้อนจัด เพื่อให้เกิดการกระจายความร้อนและกระจายน้ำหนักเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น ผสมผสานการออกแบบตัวรถที่เว้นระยะห่างระหว่างศูนย์หน้าและหลัง ล้อ (Track Width) กว้างขึ้น โดยเลือกใช้ยางที่ใหญ่กว่ารถครอบครัว C-Class ทั่วไป รวมกับเพลาหลังที่ได้รับ พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษและใช้ดิฟเฟอเรนเชียล LSD (ลิมิเต็ดสลิปดิฟเฟอเรนเชียล) ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยป้องกันล้อหลังลื่นไถลขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนของรถได้ดี ทำงานร่วมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®) ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปิดหรือปิดได้ หรือเปลี่ยนไปใช้ SPORT Handling ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 9-SPEED Sports Transmission ที่ช่วยให้รถตอบสนองระหว่างการเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับแต่งเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ที่เข้ากันอย่างลงตัวไม่เพียงแต่คนขับจะสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของเครื่องยนต์และระบบที่เกี่ยวข้องได้
การออกแบบภายนอกของ Mercedes-AMG C 63 S Coupé ใหม่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าหม้อน้ำแบบเฉพาะของ AMG ในรูปแบบด้าน และฝากระโปรงหน้าได้รับการปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่เพื่อให้สวยงามยิ่งขึ้น โครงสร้างบังคับลมที่ยกขึ้นจากฝากระโปรงหน้าได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมการไหลของอากาศที่กระทบด้านหน้ารถได้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างได้รับการออกแบบให้เข้ากับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว 5 ก้านจาก AMG โดยช่องระบายอากาศและมุมซี่ล้อได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นในอุโมงค์ลมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาล้ออัลลอยด์เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแอโรไดนามิกส์ น้ำหนักและความร้อนของตัวรถที่ระบบเบรกซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงาน และการออกแบบฝากระโปรงท้ายยังมาพร้อมกับปีก AMG ที่มีโครงสร้างทิศทางลมที่สะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์รูปแบบใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศด้านหลังรถ
นอกจากนี้ รถคันนี้ยังมีประตูไร้กรอบอีกด้วย พร้อมตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED อิสระ 84 ดวงต่อโคมไฟหน้า ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเข้มของแสงโดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้อีกด้วย ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติเฉพาะตัวหลายประการที่เหนือกว่าระบบไฟ LED มาตรฐาน เช่น ไฟส่องสว่างเมื่อขับผ่านทางแยกหรือวงเวียน ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมืองและไฟส่องสว่างสำหรับสภาพอากาศเลวร้าย Highbeam ULTRA RANGE จะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติหากระบบตรวจพบว่าไม่มีผู้สัญจรไปมาบนทางเท้า ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และคนขับใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบ ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้ารถสว่างขึ้นในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ ซึ่งสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกซันรูฟแบบพาโนราม่าที่สามารถเปิดปิดด้วยไฟฟ้าได้อีกด้วย
การออกแบบภายในมาพร้อมกับชุดเบาะนั่ง AMG Performance พร้อมวัสดุและคุณสมบัติของเบาะหนังแท้ เบาะนั่งปรับความร้อนได้ 3 ระดับ เสริมทั้งพนักพิงและปีกทั้งสองข้างเพื่อป้องกันด้านข้างของคนขับขณะขับด้วยความเร็วสูงได้ดีกว่า พนักพิงศีรษะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยกระตุ้นความสปอร์ตในห้องโดยสาร สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิตอล
12.3 นิ้ว พร้อม 3 โหมดการแสดงผลในสไตล์ AMG: Classic, Sport และ Super sports พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุมเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายและสอดคล้องกับสภาวะการขับขี่ความเร็วสูง รวมถึงผู้ขับขี่ยังจะได้พบกับกีฬาที่น่าตื่นเต้นมากกว่าที่เคยด้วยพวงมาลัย AMG Performance ใหม่ หุ้มด้วยหนัง Nappa, สลับกับไมโครไฟเบอร์ DYNAMICA ที่มีรูปทรงสปอร์ตที่ปลายโค้งที่ออกแบบมาอย่างลงตัว มาพร้อมปุ่มบนพวงมาลัย AMG สามารถใช้คำสั่งต่างๆ หรือจอยสติ๊กได้ ได้ง่ายขึ้น คันเกียร์บนคอพวงมาลัยเคลือบด้วยวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดาและทัชแพด 2 บนคอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัดและ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งงานด้วยเสียง เป็นต้น นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมีระบบเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอีกด้วย สำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับ COMAND Trực tuyến พร้อมทัชแพดและคอนโทรลเลอร์ ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® และคนขับยังสามารถปรับโทนสีของไฟห้องโดยสาร Premium Ambient Lighting ที่มีให้เลือกถึง 64 สี
ระบบเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย มีมากมายที่ช่วยเสริมความปลอดภัย และเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เช่น ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE®, Electronic Stability Program (ESP®), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกแบบปรับได้, ระบบ Active Brake Assist, ABA (ระบบ Active Brake Assist), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (SPEEDTRONIC) เพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre) ระบบตรวจสอบความดัน), ระบบเตือนเมื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, เซ็นเซอร์ 9 ตัว Assist in Parking (PARKTRONIC), ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (Active Parking Assist) และกล้องถอยหลัง, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™, ระบบ แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้ารถ (Head-up display) และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Bluetooth
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Mercedes-AMG C 63 S Coupé ติดตั้งชุดคำสั่ง AMG หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การขับขี่แบบสปอร์ตถึงขีดสุด:
· หน้าจอแสดงอุณหภูมิของเหลว (Warm-up) ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost
· หน้าจอการตั้งค่าจะแสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบกันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบESP®และเกียร์ที่ใช้งาน
· จอแสดงผล G-Force (G-Force) แสดง G-force ปัจจุบันที่ใช้กับรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใดๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง
· หน้าจอ Race Timer สำหรับตั้งเวลาจับเวลาซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบและแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อยลงและส่วนใหญ่ในเวลาเดียวกันรวมทั้งระยะทางในการขับขี่และความเร็วเฉลี่ย
· หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์แสดงแรงบิดและกำลังเครื่องยนต์ในกราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมดบูสต์
นอกจากนี้ Mercedes-AMG ยังติดตั้งหน้าจอดิจิตอลสำหรับแสดงความเร็วและเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา สัญลักษณ์ M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ และรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ Comfort, Sport, Sport+, Race และ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังอย่างเท่าเทียมกัน และเหมาะกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนตกหรือหิมะตก
· Mercedes-AMG C 63 S Coupé ราคา 10,129,000 บาท
ตรวจสอบราคารถและโปรโมชั่นใหม่ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถมือสอง เชิญที่นี่
หากต้องการแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในฟอรัม Autospinn คลิกที่นี่
ข้อมูลมากกว่านี้
#MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
[rule_3_plain] #MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงต่อเนื่อง เสริมทัพรถยนต์ตระกูลเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้พันธุ์แรงภายใต้แบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นล่าสุด Mercedes-AMG C 63 S Coupé โฉมใหม่ ที่ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น โดยรถยนต์รุ่นนี้จะนำเสนอในราคา 10,129,000 บาท
Mercedes-AMG C 63 S Coupé ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4 ลิตร พร้อม Bi-turbo ด้วยเทคนิคการติดตั้ง turbo แบบ Nóng inside V เพื่อให้ได้การระบายความร้อน และการกระจายน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น ผสานการออกแบบตัวรถที่วางให้ระยะห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของล้อคู่หน้า และคู่หลัง (Track Width) กว้างขึ้น การเลือกใช้ยางที่มีขนาดใหญ่กว่ารถในตระกูล C-Class รุ่นปกติ ผสานกับเพลาหลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และใช้ชุดเฟืองท้ายแบบ LSD (Limited-slip differential) ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยป้องกันอาการล้อหลังลื่นไถลขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เสริมให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดี โดยทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®) ซึ่ง ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิด หรือเปลี่ยนเป็น SPORT Handling ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 9-SPEED Sports Transmission ที่ช่วยให้การตอบสนองของรถในระหว่างที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการปรับตั้งค่าเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ที่สอดรับกันอย่างลงตัวไม่เพียงเท่านั้นผู้ขับยังสามารถปรับ ตั้งค่าการทำงานของเครื่องยนต์ และระบบที่เกี่ยวข้องได้
ดีไซน์ภายนอก ของ Mercedes-AMG C 63 S Coupé โฉมใหม่ได้รับการปรับปรุงให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า AMG specific radiator grille แบบด้าน ฝากระโปรงหน้าที่ปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้วน้ำหนักเบาจากเอเอ็มจี โดยช่องลม และองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดในอุโมงค์ลมเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาล้ออัลลอยนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักรถและความร้อนที่ระบบเบรก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะ และอัตราการใช้พลังงาน และดีไซน์ของฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับปีกแบบ AMG ที่มีโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ พร้อมตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสงโดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้ ซึ่งระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟ LED มาตรฐาน เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย ทั้งนี้ ระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ โดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหลังคาแก้วแบบ panoramic sliding sunroof ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Performance seats ด้วยวัสดุหุ้มหนังแท้กับคุณสมบัติ การอุ่นเบาะที่ปรับได้ 3 ระดับ เสริมทั้งพนักพิงหลัง และปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกป้องด้านข้างของ ผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น พนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปลุกเร้าความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด
12.3 นิ้ว ที่มีโหมดการแสดงผล 3 แบบในสไตล์เอเอ็มจี คือ Classic, Sport และ Super sports พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว และสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงผู้ขับขี่ยังจะได้พบกับความสปอร์ตเร้าใจมากกว่าที่เคยด้วยพวงมาลัยรุ่นใหม่แบบ AMG Performance Steering Wheel หุ้มด้วยหนังชนิด Nappa leather ตัดสลับกับ DYNAMICA microfibre ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดที่ออกแบบเป็นวงโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับปุ่ม AMG steering wheel button สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น คันเกียร์ที่คอพวงมาลัยชุบวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดา และ Touchpad 2 ข้าง ที่คอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่นนี้ โดยด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัด และ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งการด้วยเสียง เป็นต้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับ COMAND Trực tuyến พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester® และผู้ขับขี่ยังสามารถปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Lighting ที่มีให้เลือกถึง 64 สี
ระบบเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย ที่มีอย่างมากมายเพื่อช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัย และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE®, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system)ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure monitoring system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera), ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Mercedes-AMG C 63 S Coupé มาพร้อมกับชุดคำสั่งเอเอ็มจี เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การขับขี่มีความสปอร์ตจนถึงขีดสุด ได้แก่
· หน้าจออุณหภูมิของเหลว (Warm-up) ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost
· หน้าจอการตั้งค่า (Cài đặt) แสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบ กันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ ESP® และเกียร์ที่ใช้อยู่
· หน้าจอแรงจี (G-Force) แสดงแรงจีปัจจุบันที่กดลงมาที่ตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใดๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม
· หน้าจอจับเวลา (Race Timer) สำหรับการจับเวลาโดยตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อย และมากที่สุดได้พร้อมกัน รวมถึงระยะที่ขับขี่และความเร็วเฉลี่ย
· หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ (Engine data) แสดงแรงบิด และกำลังเครื่องยนต์แบบ กราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมด Boost
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังติดตั้งหน้าจอดิจิทัลสำหรับแสดงความเร็ว และเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดการใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา โดยสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ และรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport+, Race และ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนหรือหิมะ
· Mercedes-AMG C 63 S Coupé ราคา 10,129,000 บาท
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
#MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
[rule_2_plain]
#MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
[rule_2_plain]
#MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
[rule_3_plain]
#MercedesAMG #Coupe #เสรมทพกลมรถสมรรถนะสง
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงต่อเนื่อง เสริมทัพรถยนต์ตระกูลเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้พันธุ์แรงภายใต้แบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นล่าสุด Mercedes-AMG C 63 S Coupé โฉมใหม่ ที่ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น โดยรถยนต์รุ่นนี้จะนำเสนอในราคา 10,129,000 บาท
Mercedes-AMG C 63 S Coupé ยกระดับ “สมรรถนะการขับขี่” ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4 ลิตร พร้อม Bi-turbo ด้วยเทคนิคการติดตั้ง turbo แบบ Nóng inside V เพื่อให้ได้การระบายความร้อน และการกระจายน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น ผสานการออกแบบตัวรถที่วางให้ระยะห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของล้อคู่หน้า และคู่หลัง (Track Width) กว้างขึ้น การเลือกใช้ยางที่มีขนาดใหญ่กว่ารถในตระกูล C-Class รุ่นปกติ ผสานกับเพลาหลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และใช้ชุดเฟืองท้ายแบบ LSD (Limited-slip differential) ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยป้องกันอาการล้อหลังลื่นไถลขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เสริมให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดี โดยทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®) ซึ่ง ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิด หรือเปลี่ยนเป็น SPORT Handling ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 9-SPEED Sports Transmission ที่ช่วยให้การตอบสนองของรถในระหว่างที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการปรับตั้งค่าเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ที่สอดรับกันอย่างลงตัวไม่เพียงเท่านั้นผู้ขับยังสามารถปรับ ตั้งค่าการทำงานของเครื่องยนต์ และระบบที่เกี่ยวข้องได้
ดีไซน์ภายนอก ของ Mercedes-AMG C 63 S Coupé โฉมใหม่ได้รับการปรับปรุงให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า AMG specific radiator grille แบบด้าน ฝากระโปรงหน้าที่ปรับแต่งด้วยเส้นสายใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม โครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ยกตัวขึ้นจากฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยควบคุมการไหลเวียนของลมที่ปะทะด้านหน้าของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น สเกิร์ตข้างที่ดีไซน์ให้เข้ากับล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้วน้ำหนักเบาจากเอเอ็มจี โดยช่องลม และองศาก้านล้อได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดในอุโมงค์ลมเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาล้ออัลลอยนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักรถและความร้อนที่ระบบเบรก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะ และอัตราการใช้พลังงาน และดีไซน์ของฝากระโปรงหลังยังมาพร้อมกับปีกแบบ AMG ที่มีโครงสร้างบังคับทิศทางลมที่ดูสะดุดตา รวมถึงดิฟฟิวเซอร์สไตล์ใหม่ที่ช่วยพัฒนาการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถ
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับประตูแบบไร้ขอบ พร้อมตกแต่งรอบคันด้วย AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง) เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสงโดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้ ซึ่งระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟ LED มาตรฐาน เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย ทั้งนี้ ระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ โดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหลังคาแก้วแบบ panoramic sliding sunroof ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมชุดเบาะที่นั่ง AMG Performance seats ด้วยวัสดุหุ้มหนังแท้กับคุณสมบัติ การอุ่นเบาะที่ปรับได้ 3 ระดับ เสริมทั้งพนักพิงหลัง และปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกป้องด้านข้างของ ผู้ขับขี่ขณะขับรถด้วยความเร็วสูงได้ดียิ่งขึ้น พนักพิงศีรษะที่ออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปลุกเร้าความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด
12.3 นิ้ว ที่มีโหมดการแสดงผล 3 แบบในสไตล์เอเอ็มจี คือ Classic, Sport และ Super sports พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย และมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกคำสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว และสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงผู้ขับขี่ยังจะได้พบกับความสปอร์ตเร้าใจมากกว่าที่เคยด้วยพวงมาลัยรุ่นใหม่แบบ AMG Performance Steering Wheel หุ้มด้วยหนังชนิด Nappa leather ตัดสลับกับ DYNAMICA microfibre ที่มีรูปทรงสปอร์ตท้ายตัดที่ออกแบบเป็นวงโค้งอย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับปุ่ม AMG steering wheel button สามารถใช้คำสั่งหรือก้านควบคุมต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น คันเกียร์ที่คอพวงมาลัยชุบวัสดุโลหะ และรองรับโหมดเกียร์ธรรมดา และ Touchpad 2 ข้าง ที่คอพวงมาลัยซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรุ่นนี้ โดยด้านซ้ายใช้ควบคุมแผงหน้าปัด และ Cruise Control ด้านขวาใช้ควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบโทรศัพท์ ระบบสั่งการด้วยเสียง เป็นต้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานร่วมกับ COMAND Trực tuyến พร้อม Touchpad และ Controller ระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester® และผู้ขับขี่ยังสามารถปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Lighting ที่มีให้เลือกถึง 64 สี
ระบบเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย ที่มีอย่างมากมายเพื่อช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัย และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE®, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system)ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure monitoring system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) พร้อมถุงลมนิรภัย 7 ลูก 9 ตำแหน่ง เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera), ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Mercedes-AMG C 63 S Coupé มาพร้อมกับชุดคำสั่งเอเอ็มจี เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้การขับขี่มีความสปอร์ตจนถึงขีดสุด ได้แก่
· หน้าจออุณหภูมิของเหลว (Warm-up) ที่แสดงอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และแรงดันในโหมด Boost
· หน้าจอการตั้งค่า (Cài đặt) แสดงข้อมูลของโหมดการขับขี่ที่ใช้งานอยู่ การตั้งค่าระบบ กันสะเทือน โหมดการปล่อยไอเสีย การตั้งค่าระบบ ESP® และเกียร์ที่ใช้อยู่
· หน้าจอแรงจี (G-Force) แสดงแรงจีปัจจุบันที่กดลงมาที่ตัวรถ เมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วใดๆ และให้คำแนะนำในการขับขี่ให้เหมาะสม
· หน้าจอจับเวลา (Race Timer) สำหรับการจับเวลาโดยตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งสามารถจับเวลาต่อรอบพร้อมทั้งแสดงรอบที่ใช้เวลาน้อย และมากที่สุดได้พร้อมกัน รวมถึงระยะที่ขับขี่และความเร็วเฉลี่ย
· หน้าจอข้อมูลเครื่องยนต์ (Engine data) แสดงแรงบิด และกำลังเครื่องยนต์แบบ กราฟแท่ง รวมถึงแรงดันในโหมด Boost
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังติดตั้งหน้าจอดิจิทัลสำหรับแสดงความเร็ว และเกียร์ปัจจุบัน เมื่อเปิดการใช้งานโหมดเกียร์ธรรมดา โดยสัญลักษณ์ตัว M สีเหลืองจะปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ และรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่มีให้เลือก 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport+, Race และ Slippery เพื่อช่วยกระจายกำลังให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และเหมาะสมกับสภาพถนนที่เปียกเพราะฝนหรือหิมะ
· Mercedes-AMG C 63 S Coupé ราคา 10,129,000 บาท
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
